คำแนะนำการขอประกันตัวผู้ต้องหาหรือจำเลยต่อศาล

การขอประกันตัวคืออะไร

การขอประกันตัว คือ การขอให้ปล่อยตัวผู้ต้องหาในระหว่างสอบสวนหรือขอให้ปล่อยจำเลยในระหว่างการพิจารณาของศาล ซึ่งมีอยู่ด้วยกัน ๓ ลักษณะ คือ

  1. การขอให้ปล่อยตัวชั่วคราว โดยไม่ต้องมีประกัน
  2. การปล่อยตัวชั่วคราว โดยมีประกัน
  3. การปล่อยตัวชั่วคราว โดยมีประกันและหลักประกัน

ทำได้เมื่อใด ที่ไหน

  1. เมื่อผู้ต้องหาถูกควบคุมอยู่และยังมิได้อยู่ในอำนาจของศาล ให้ยื่นต่อพนักงานสอบสวนหรือพนักงานอัยการ แล้วแต่กรณี
  2. เมื่อผู้ต้องหาต้องขังตามหมายศาลและยังมิได้ถูกฟ้องต่อศาล ให้ยื่นคำร้องต่อศาลที่ออกหมายขังนั้น
  3. เมื่อผู้ต้องหาถูกฟ้องเป็นจำเลยต่อศาลแล้ว ให้ยื่นต่อศาลชั้นต้นที่ชำระคดีนี้
  4. เมื่อศาลอ่านคำพิพากษาศาลชั้นต้นหรือศาลอุทธรณ์แล้ว หากมีอุทธรณ์หรือฎีกา แต่สำนวนยังมิได้ส่งไปยังศาลอุทธรณ์หรือฎีกา ให้ยื่นต่อศาลชั้นต้นที่ชำระคดีนี้ หากสำนวนส่งไปยังศาลอุทธรณ์หรือศาลฎีกาแล้ว จะยื่นต่อศาลชั้นต้นที่ชำระคดีนี้ หรือต่อศาลอุทธรณ์หรือศาลฎีกาก็ได้แล้วแต่กรณี
  5. กรณีผู้ต้องหาหรือจำเลยเป็นเด็กหรือเยาวชนซึ่งอยู่ในอำนาจของศาลเยาวชนและครอบครัว(อายุไม่ถึง ๑๘ ปี) ตำรวจมีอำนาจควบคุมเด็กหรือเยาวชนได้เพียง ๒๔ ชั่วโมง หลังจากนั้นตำรวจต้องส่งเด็กหรือเยาวชนไปให้ผู้อำนวยการสถานพินิจและคุ้มครองเด็ก และเมื่อพนักงานอัยการฟ้องเด็กหรือเยาวชนต่อศาลแล้ว การขอประตัวเด็กหรือเยาวชนต้องยื่นต่อศาล

ผู้มีสิทธิยื่นขอประกัน

  1. ผู้ต้องหาหรือจำเลยนั้นเอง
  2. ผู้มีประโยชน์เกี่ยวข้อง เช่น ญาติพี่น้อง นายจ้าง ผู้บังคับบัญชาหรือเพื่อน เป็นต้น ซึ่งมักเรียกกันว่า “นายประกัน”

หลักทรัพย์ที่ใช้เป็นหลักประกันได้

  1. เงินสด
  2. หนังสือแสดงสิทธิในที่ดิน เช่น โฉนดที่ดิน น.ส.๓ หรือ น.ส.๓ ก
  3. พันธบัตรรัฐบาลหรือสลากออมสิน
  4. สมุดหรือใบรับฝากประจำธนาคาร
  5. ตั๋วแลกเงินที่ธนาคารเป็นผู้จ่าย และธนาคารผู้จ่ายรับรองตลอดไปแล้ว
  6. ตั๋วสัญญาใช้เงินที่ธนาคารเป็นผู้ออกตั๋ว
  7. หนังสือรับรองของธนาคารเพื่อชำระเบี้ยปรับแทนในกรณีผิดสัญญาประกัน
  8. บุคคลเป็นประกันหรือหลักประกัน

หมายเหตุ

  1. ในกรณีวางสมุดเงินฝากหรือใบใบรับเงินฝากประจำของธนาคารจะต้องนำหนังสือรับรองยอดเงินคงเหลือปัจจุบันดังกล่าวของธนาคารมาแสดงด้วย
  2. ในกรณีวางโฉนดที่ดิน น.ส.๓ หรือ น.ส.๓ ก จะต้องมีหนังสือรับรองราคาประเมินที่ดินของเจ้าพนักงานที่ดินหรืออำเภอท้องที่มาแสดงด้วย
  3. ให้ผู้ขอทำสัญญาประกันด้วยบุคคลเสนอหนังสือรับรองจากต้นสังกัดแสดงสถานะอัตราเงินเดือนและหากมีภาระผูกพันในการทำสัญญาประกันหรือใช้ตนเองเป็นหลักประกันรายอื่นอยู่ ก็ให้แสดงภาระผูกพันนั้นด้วย

หลักประกันกรณีใช้ตำแหน่งเป็นประกันในการปล่อยชั่วคราวข้าราชการพลเรือน

  • ระดับ ๓ ถึง ๕ หรือข้าราชการอื่นที่เทียบเท่า เป็นหลักประกันในวงเงินไม่เกิน ๖๐,๐๐๐.- บาท
  • ระดับ ๖ ถึง ๘ หรือข้าราชการอื่นที่เทียบเท่า เป็นหลักประกันในวงเงิน ไม่เกิน ๒๐๐,๐๐๐.- บาท
  • ระดับ ๙ ถึง ๑๐ หรือข้าราชการอื่นที่เทียบเท่า เป็นหลักประกันในวงเงิน ไม่เกิน ๕๐๐,๐๐๐.- บาท
  • ระดับ ๑๑ หรือข้าราชการอื่นที่เทียบเท่า เป็นหลักประกันในวงเงิน ไม่เกิน ๘๐๐,๐๐๐.- บาท

ข้าราชการตำรวจและทหาร พนักงานรัฐวิสาหกิจหรือข้าราชการที่เรียกชื่ออย่างอื่น

  • ให้ทำสัญญาประกันตามระดับที่เทียบเท่า ๘๐๐,๐๐๐.- บาท
  • สมาชิกรัฐสภา , ข้าราชการเมือง วงเงินไม่เกิน ๘๐๐,๐๐๐.- บาท

ทนายความ

  • ทำสัญญาประกันหรือใช้ตนเองเป็นหลักประกัน สำหรับตนเองหรือบุพการี ผู้สืบสันดาน คู่สมรส พี่น้องร่วมบิดามารดาหรือร่วมบิดาหรือมารดาเดียวกัน ปู่ย่าตายาย ลุงป้าน้าอา
  • เป็นทนายความไม่เกิน ๕ ปี วงเงินไม่เกิน ๖๐,๐๐๐.- บาท
  • เป็นทนายความตั้งแต่ ๕ ปี ไม่ถึง ๑๕ ปี วงเงินไม่เกิน ๒๐๐,๐๐๐.- บาท
  • เป็นตั้งแต่ ๑๕ ปี ขึ้นไป วงเงินไม่เกิน ๕๐๐,๐๐๐.- บาท

หลักฐานที่ต้องใช้ในการประกันตัวผู้ต้องหาหรือจำเลย

  1. บัตรประจำตัวประชาชนหรือบัตรข้าราชการหรือพนักงานรัฐวิสาหกิจพร้อมสำเนา ๑ ชุด
  2. สำเนาทะเบียนบ้านพร้อมสำเนา ๑ ชุด
  3. ผู้ขอประกันที่สมรสแล้วแม้มิได้จดทะเบียน ต้องให้สามีหรือภรรยาให้ความยินยอมพร้อมนำหลักฐานต่อไปนี้มาแสดง
    • บัตรประจำตัวประชาชนหรือบัตรข้าราชการพนักงานรัฐวิสาหกิจพร้อมสำเนา ๑ ชุด
    • สำเนาทะเบียนบ้านหรือสำเนา ๑ ชุด
    • หนังสือยินยอมของคู่สมรส
  4. กรณีผู้ขอประกันเป็นหม้าย ต้องนำหลักฐานมาแสดง เช่น
    • ใบสำคัญการหย่า หรือ
    • ใบมรณะบัตรของคู่สมรสหรือทะเบียนบ้านประทับว่า ตาย หน้าชื่อคู่สมรสพร้อมสำเนา ๑ ชุด
  5. กรณีชื่อตัวหรือชื่อสกุลเจ้าของหลักทรัพย์ตามบัตรของทางราชการไม่ตรงกับที่ปรากฏในหลักทรัพย์ ต้องมีหนังสือรับรองว่าเป็นบุคคลเดียวกัน ออก ณ ที่ว่าการอำเภอท้องที่ที่เจ้าของหลักทรัพย์มีชื่อในทะเบียนบ้านมาแสดง
  6. กรณีชื่อตัวหรือชื่อสกุลเจ้าของหลักทรัพย์ตามบัตรของทางราชการไม่ตรงกับที่ปรากฏในหลักทรัพย์ เนื่องจากเปลี่ยนชื่อตัว ชื่อสกุล ต้องมีหลักฐานการเปลี่ยนชื่อตัว ชื่อสกุล มาแสดง
  7. กรณีชื่อตัวหรือชื่อสกุลเจ้าของหลักทรัพย์ตามบัตรของทางราชการไม่ตรงกับที่ปรากฏในหลักทรัพย์ เนื่องจากเปลี่ยนชื่อสกุล เพราะทำการสมรสแล้ว ต้องนำใบสำคัญการสมรสมาแสดง
  8. กรณีเจ้าของหลักทรัพย์ต้องการมอบอำนาจให้ผู้อื่นทำประกันแทน ต้องนำหลักฐานดังต่อไปนี้มาแสดง
    • บัตรประจำตัวประชาชน หรือบัตรข้าราชการ พนักงานรัฐวิสาหกิจ หรือใบอนุญาตขับขี่พร้อมสำเนาทะเบียนบ้านของเจ้าของหลักทรัพย์ และของผู้รับมอบอำนาจพร้อมสำเนา ๑ ชุด
    • หนังสือมอบอำนาจ โดยเจ้าของหลักทรัพย์และผู้รับมอบอำนาจไปทำที่อำเภอ การมอบอำนาจต้องมีการรับรองการมอบอำนาจ โดยนายอำเภอหรือผู้ทำการแทน ซึ่งได้ลงลายมือชื่อรับรอง และประทับตราประจำตำแหน่งเป็นสำคัญ หรือหนังสือมอบอำนาจโดยผู้มอบอำนาจและผู้รับมอบอำนาจมาทำที่ศาลด้วยตนเอง ลงชื่อต่อหน้าเจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์

ขั้นตอนการขอประกันตัวผู้ต้องหาหรือจำเลย

  1. ขอแบบพิมพ์คำร้องขอประกันตัวได้จากฝ่ายประชาสัมพันธ์
  2. เขียนคำร้องขอประกันตัวได้เอง โดยขอคำแนะนำหรือดูตัวอย่างได้จากเจ้าหน้าที่ฝ่ายประชาสัมพันธ์ หากผู้ขอประกันเขียนหนังสือไม่ได้ เจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์จะช่วยเขียนให้โดยไม่ต้องเสียค่าตอบแทนแต่ประการใด
  3. ให้ผู้ต้องหาหรือจำเลยเซ็นชื่อในคำร้องขอประกัน(ด้านหลังของคำร้องแบบ ๕๗) หากผู้ต้องหา หรือจำเลยมิได้ถูฏขังอยู่ที่ศาล เป็นหน้าที่ของนายประกันที่จะต้องนำคำร้องไปให้ลงชื่อ
  4. นายประกันยื่นคำร้องขอปล่อยชั่วคราวพร้อมหลักฐานต่าง ๆ ที่เจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์
  5. เมื่อเจ้าหน้าที่รับประกันได้ตรวจคำร้องขอปล่อยชั่วคราว และหลักฐานเรียบร้อยแล้วจะส่งบัญชีรับเรื่องไว้เป็นหลักฐาน
  6. เจ้าหน้าที่ที่รับประกันจะส่งคำร้องขอปล่อยชั่วคราวไปทำสำนวนคดีของเรื่องนี้ตามแผนกต่าง ๆ เพื่อนำมาประกอบคำร้องที่ยื่นไว้แล้วนำมาเสนอผู้พิพากษาหัวหน้าศาลทันที
  7. ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลพิจารณาแล้วมีคำสั่งในคำร้องขออปล่อยชั่วคราวว่าอนุญาต หรือไม่อนุญาตประการใดแล้วส่งสำนวนคดีและคำร้องขอปล่อยชั่วคราวกลับคืนไปที่เจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์ที่รับประกัน
  8. เจ้าหน้าที่ที่รับประกันจะแจ้งผลการขอประกันให้นายประกันทราบ
  9. เมื่อทราบว่าศาลได้อนุญาตให้ประกันตัวได้แล้ว นายประกันต้องลงชื่อรับทราบวันนัดที่จะต้องนำผู้ต้องหาหรือจำเลยมาศาล โดยเซ็นชื่อในสมุดนัดประกัน
  10. หลังจากลงชื่อทราบวันนัดแล้ว นายประกันจึงยื่นหลักทรัพย์ให้แก่ เจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์ การรับใบเสร็จรับเงินและใบเสร็จรับหลักทรัพย์ให้นายประกันมารับเอง ถ้าผู้อื่นรับแทนต้องนำบัตรประจำตัวประชาชนหรือบัตรอื่นที่ทางราชการออกให้ของนายประกันมาด้วย
  11. การปล่อยตัวผู้ต้องหาหรือจำเลย เมื่อนายประกันได้วางหลักประกันเสร็จแล้ว เจ้าหน้าที่จะทำสัญญาประกันเสนอศาลออกหมายปล่อย ถ้าผู้ต้องหาหรือจำเลยถูกควบคุมอยู่ที่ศาลและยังไม่มีการออกหมายขังไว้เลยจะนำหมายปล่อยให้ผู้ต้องหาหรือจำเลยออกจากห้องควบคุมในศาล ถ้าผู้ต้องหาหรือจำเลยอยู่ระหว่างถูกขังตามหมายศาล ไม่ว่าจะถูกขังที่สถานีตำรวจหรือที่เรือนจำเจ้าหน้าที่จะนำหมายปล่อยไปปล่อยผู้ต้องหาหรือจำเลยที่ถูกคุมขัง
  12. การปล่อยผู้ต้องหาหรือจำเลยจะปล่อยในวันที่ศาลสั่งอนุญาตให้ประกันตัวก็ได้ การขอประกันดังกล่าวนี้ โดยปกติจะเสร็จสิ้นในเวลาไม่เกิน ๑ ชั่วโมง
  13. หากศาลสั่งไม่อนุญาตให้ประกันจะขอรัลหลักทรัพย์คืนได้จากเจ้าหน้าที่ที่รับประกัน
  14. การขอปล่อยชั่วคราวในระหว่างอุทธรณ์ ฎีกาใช้หลักเกณฑ์เหมือนกับที่กล่าวมาแล้ว รายละเอียดสอบถามได้จากเจ้าหน้าที่ฝ่ายประชาสัมพันธ์

โปรดอย่าหลงเชื่อคำแอบอ้างของบุคคลอื่นที่อ้างว่าสามารถให้ความช่วยเหลือหรือติดต่อให้ประกันตัวได้เร็วขึ้น หรือช่วยดำเนินการเรื่องต่าง ๆ อันเกี่ยวแก่คดีได้โดยต้องเสียค่าตอบแทน เพราะท่านจะเสียเงินโดยเปล่าประโยชน์ ขั้นตอนการขอประตัวทุกครั้งจะเป็นไปดังกล่าวข้างต้น หากมีข้อสงสัยประการใดเกี่ยวกับเรื่องการขอประกันตัวผู้ต้องหาหรือจำเลยเกี่ยวกับคดีความ สอบถามได้จากเจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์

ศาลจะให้ประกันเสมอไปหรือไม่

  1. คดีอาญา ซึ่งมีอัตราไม่สูงหรือไม่ร้ายแรง เช่น ลักทรัพย์ ทำร้ายร่างกาย ถ้าศาลเชื่อว่าผู้ต้องหาหรือจำเลยไม่หลบหนี การปล่อยชั่วคราวจะไม่เกิดความเสียหายแก่การดำเนินคดีและผู้ประกันมีหลักทรัพย์เชื่อถือได้ ศาลจะอนุญาตให้ประกันในวันนั้น โดยตีราคาประกันตามสมควรแก่ข้อหา
  2. คดีที่มีอัตราโทษอย่างสูงเกิน ๑๐ ปี เช่น ปล้นทรัพย์ หรือฆ่าผู้อื่น กฎหมายบัญญัติว่าศาลจะต้องสอบถามพนักงานสอบสวน พนักงานอัยการหรือโจทก์ก่อน ว่าจะคัดค้านหรือไม่ ถ้าไม่คัดค้าน ศาลอาจถามได้โดยมีเหตุอันสมควร หรือศาลจะงดการถามเสียก็ได้

อย่าหลงเชื่อผู้แอบอ้างว่าจะช่วยเหลือด้วยประการใด ๆ ทั้งสิ้น ศาลจะใช้ดุลพินิจสั่งโดยอาศัยหลักเกณฑ์ตามที่กฎหมายกำหนด

นายประกันต้องปฏิบัติอย่างไร

  1. นายประกันต้องให้ชื่อและที่อยู่ปัจจุบันต่อศาล หากย้ายที่อยู่ต้องแจ้งให้ศาลทราบโดยเร็ว
  2. เมื่อศาลอนุญาตให้ประกัน นายประกันต้องลงลายมือชื่อทำสัญญาประกันไว้เป็นหลักฐาน และลงลายมือชื่อทราบกำหนดวัน เวลา ส่งตัวผู้ต้องหาหรือจำเลยต่อศาล
  3. นายประกันจะต้องนำผู้ต้องหากหรือจำเลยที่ตนประกันมาส่งตามกำหนดวันเวลาที่ศาลนัดทุกครั้ง หากนายประกันผิดนัดนำตัวผู้ต้องหาหรือจำเลยมาศาลตามที่กล่าวข้างต้น ศาลอาจถอนประกันและปรับนายประกันตามสัญญาประกันได้
  4. กรณีนายประกันไม่สามารถมาศาลได้ นายประกันอาจมอบอำนาจให้ผู้อื่นส่งตัวผู้ต้องหาหรือจำเลยแทนได้

เมื่อศาลสั่งปรับนายประกัน

ในกรณีที่ศาลสั่งปรับนายประกันตามสัญญาประกัน นายประกันจะต้องนำเงินค่าปรับมาชำระภายในระยะเวลาที่ศาลกำหนด หากไม่ชำระศาลอาจสั่งยึดทรัพย์ที่นำมาเป็นหลักประกันขายทอดตลาดเพื่อนำเงินมาชำระค่าปรับ ถ้าได้เงินไม่พอชำระค่าปรับศาลอาจยึดทรัพย์อื่น ๆ ของนายประกันมาขายทอดตลาดเพื่อชำระค่าปรับจนครบ

สัญญาประกันสิ้นสุดลงเมื่อใด

  1. ในชั้นผัดฟ้อง/ฝากขัง สัญญาประกันจะสิ้นสุดลงเมื่อพนักงานอัยการได้ยื่นฟ้องผู้ต้องหาเป็นจำเลยต่อศาล หรือพนักงานสอบสวนหรือพนักงานอัยการมิได้ขอผัดฟ้อง/ฝากขังผู้ต้องหาอีกต่อไป หรือพ้นกำหนดผัดฟ้องฝากขังผู้ต้องหาแล้ว
  2. ในชั้นพิจารณาเมื่อศาลชั้นต้น ศาลอุทธรณ์ หรือศาลฎีกา แล้วแต่กรณีมีคำพิพากษา
  3. เมื่อนายประกันนำตัวผู้ต้องหาหรือจำเลยมาส่งศาลโดยไม่ประสงค์ที่จะประกันผู้ต้องหาหรือจำเลยนั้นต่อไปนี้

เมื่อสัญญาประกันสิ้นสุดลงแล้วหรือเมื่อคดีถึงที่สุดแล้ว นายประกันสามารถยื่นคำร้องขอถอนประกันและขอรับหลักทรัพย์ประกันต่อศาลได้ทันที

การคืนหลักประกัน

เมื่อคดีถึงที่สุดหรือศาลอนุญาตให้ถอนประกันหรือสัญญาประกันสิ้นสุดลงโดยเหตุอื่น เช่น ศาลเพิกถอนสัญญาประกัน ศาลพิพากษาจำคุกจำเลย จำเลยตาย นายประกันตายหรือศาลสั่งปรับนายประกัน เพราะผิดสัญญาแล้วย่อมขอรับหลักประกันคืนจากศาลได้โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใด ๆ ทั้งสิ้น

อัตราหลักประกันในการขอให้ปล่อยชั่วคราว (โดยประมาณ)

ประเภทความผิด ราคาหลักประกัน/บาท
ข่มขืนใจเจ้าพนักงาน (ม.139)

80,000

ต่อสู้ขัดขวาง, ข่มขืนใจเจ้าพนักงาน (ม.139,140)

90,000-180,000

ให้สินบนเจ้าพนักงาน (ม.143,144)

90,000

เจ้าพนักงานยักยอก (ม.147) ใช้อำนาจในตำแหน่งโดยมิชอบ ทุจริต (ม.148-151)

300,000-500,000

เจ้าพนักงานมีส่วนได้เสียจ่ายทรัพย์เกิน (ม.152,153) ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ (ม.157) ทำให้ทรัพย์หรือเอกสารเสียหาย (ม.158)

120,000-300,000

เจ้าพนักงานเก็บภาษี ตรวจสอบบัญชีโดยทุจริต (ม.154-156)

300,000

เจ้าพนักงานทำลายตรา เครื่องหมาย หลักฐานการยึดหรือใช้ดวงตรามิชอบ (ม.159,160)

90,000

เจ้าพนักงานปลอมเอกสาร ทำเอกสารเท็จ (ท.161,162) ให้สินบนเจ้าพนักงานในการยุติธรรม (ม.167)

100,000-120,000

แจ้งความเท็จคดีอาญา (ม.172,173) แกล้งเพื่อให้รับโทษ (ม.174)

40,000-100,000

ฟ้องเท็จ เบิกความเท็จ (ม.175,177)

90,000-100,000

นำสืบหรือแสดงพยานหลักฐานเท็จในการพิจารณาคดีอาญา (ม.180)

100,000

ทำลายเอกสารหรือพินัยกรรม

90,000

หลบหนีระหว่างถูกคุมขัง (ม.190) ทำให้ผู้ถูกคุมขังหลุดพ้นจากคุมขัง (ม.191)

50,000-150,000

ดูหมิ่นศาล

100,000

เจ้าพนักงานทำการในตำแหน่งโดยมิชอบ (ม.200)

100,000-300,000

ตุลาการ อัยการเรียกรับสินบน (ม.201)

500,000

เจ้าพนักงานทำให้ผู้ถูกคุมขังหลุดพ้น (ม.204) เหยียดหยามศาสนา (ม.206) อั้งยี่ (ม.209)

100,000-150,000

ซ่องโจร (ม.210)

10,000-60,000

วางเพลิง (ม.217,218) ทำให้เกิดเพลิงไหม้ (ม.220)

100,000-500,000

ทำให้เกิดระเบิด (ม.221) ทำให้เกิดเพลิงไหม้โดยประมาท (ม.225)

100,000

วางเพลิงหรือทำให้เกิดระเบิด เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย,สาหัส (ม.224)

400,000-500,000

ทำการใด ๆ แก่โรงเรือน (ม.226) ผู้มีวิชาชีพออกแบบไม่ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ (ม.227) ทำให้เกิดอุทกภัย (ม.228)

90,000-100,000

ทำให้ทางสาธารณะน่าจะเป็นอันตรายแก่การจราจร (ม.229)

90,000

กีดขวางทางรถไฟ (ม.230) ทำให้สัญญานซึ่งจัดไว้เพื่อความปลอดภัย (ม.231) ทำให้ยานพาหนะอยู่ในลักษณะอันตราย (ม.232) เอาของมีพิษเจืออาหาร

100,000-12,000

ทำผิดตาม ม.226-237 เป็นเหตุให้ผู้ได้รับอันตรายสาหัส ตาย (ม.238)

120,000 บาทขึ้นไป

ทำผิดตาม ม.226-237 เป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตราย ตาย (ม.238)

120,000-300,000

ปลอมหรือแปลงเงินตรา ม.240,241

300,000

ทำให้เหรียญกษาปณ์มีน้ำหนักลดลง (ม.242)

100,000

มีไว้เพื่อนำออกใช้หรือได้มาโดนรู้ว่าเป็นของปลอมหรือแปลง (ม.224)

150,000

ไม่รู้ว่าเป็นของปลอม ต่อมารู้แล้วยังขืนนำออกใช้ (ม.245)

120,000

ทำเครื่องมือสำหรับปลอมหรือแปลงเงินตรา (ม.246)

200,000

ปลอมดวงตราแผ่นดิน ทบวงการเมือง (ม.250,251) ปลอมเอกสารสิทธิหรือเอกสาราชการ (ม.265,266)

100,000-200,000

ข่มขืนกระทำชำเรา (ม.276)

200,000-350,000

กระทำชำเราเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี (ม.227)

200,000-350,000

ทำผิดตาม ม.276,277 เป็นเหตุให้ได้รับอันตรายสาหัส ตาย (ม.277ทวิ,ตรี)

400,000-500,000

อนาจารบุคคลอายุกว่า 15 ปี ไม่เกิน 15 ปี (ม.278,279)

120,000-150,000

ทำผิดตาม ม.278,279 เป็นเหตุได้รับอันตรายสาหัส ตาย (ม.280)

200,000-500,000

เพื่อสำเร็จความใคร่ของผู้อื่น (ม.282)

120,000-200,000

พาผู้อื่นไปเพื่ออนาจารโดยใช้อุบายหลอกลวง (ม.284)

120,000

ดำรงชีพจากหญิงค้าประเวณี (ม.286)

300,000

ฆ่าผู้อื่น (ม.288)

300,000

ฆ่าผู้อื่นโดยมีเหตุฉกรรณ์ (ม.289)

500,000

ทำร้ายผู้อื่นถึงแก่ความตาย (ม.290)

180,000-200,000

ประมาททำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย (ม.291)

120,000-150,000

ทำทารุณบุคคลต้องพึ่งตนเพื่อให้ฆ่าตนเอง (ม.292)

100,000

ยุยงเด็กฆ่าตนเอง (ม.293)

90,000

ทำร้ายสาหัส (ม.297)

120,000

ทำให้หญิงแท้งลูกโดยยินยอม (ม.302)

90,000-120,000

ทำให้หญิงแท้งลูกโดยไม่ยินยอม (ม.303)

100,000-200,000

ความผิดต่อเสรีภาพ (ม.309 วรรคสอง)

80,000-100,000

เอาคนลงเป็นทาส (ม.312)

100,000

เรียกค่าไถ่ (ม.131)

400,000

คนกลางเรียกทรัพย์สินที่มิควรได้ (ม.315)

400,000-500,000

พรากเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี (ม.317)

180,000-200,000

พรากผู้เยาว์อายุกว่า 15 ปี แต่ไม่เกิน 18 ปี โดยไม่เต็มใจ (ม.318)

150,000-180,000

พรากผู้เยาว์อายุกว่า 15 ปี แต่ไม่เกิน 18 ปี โดยเต็มใจ (ม.319)

150,000

พาหรือส่งคนออกนอกราชอาณาจักร (ม.320)

150,000-180,000

หมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา (ม.328)

50,000

ลักทรัพย์ (ม.334-335 ทวิ)

50,000-180,000

วิ่งราวทรัพย์ (ม.336)

90,000-200,000

กรรโชกทรัพย์ (ม.337)

90,000-100,000

รีดเอาทรัพย์ (ม.338)

120,000

ชิงทรัพย์ (ม.339,339 ทวิ)

150,000-500,000

ปล้นทรัพย์ (ม.340)

200,000-500,000

ปล้นทรัพย์เข้าลักษณะตามม.335 ทวิ

150,000-180,000

ปล้นทรัพย์โดยมีอาวุธติดตัว หรือทำให้อันตรายสาหัส

300,000-400,000

ปล้นทรัพย์โดยทารุณ ใช้ปืนยิง หรือทำให้ตาย

500,000

ฉ้อโกง (ม.341-343)

5,000-100,000

ยักยอก (ม.352-356)

5,000-100,000

รับของโจร (ม.357) ทำให้เสียทรัพย์ (ม.358-360 ทวิ) บุกรุก (ม.362-365)

90,000-120,000

ที่มา : หนังสือคำแนะนำการติดต่องานศาลจังหวัดเชียงใหม่ จัดพิมพ์โดยศาลจังหวัดเชียงใหม่